ฉันคือคนไม่พิเศษ
ทุกคนชื่นชมคนเก่ง คนที่โดดเด่น และคนที่พิเศษ แล้วคนธรรมดาอย่างเราจะมีที่ยืนอยู่ตรงไหนกัน มันมีตรงไหนบ้างที่มีที่ยืนให้คนที่เป็นแค่ค่าเฉลี่ยของทุกอย่าง เราเติบโตมาพร้อมกับบรรทัดฐาน มีแบบอย่างว่าเราต้องเป็นแบบไหน เดินทางไหน พอเราไม่เลือกเหมือนคนอื่น เราก็จะถูกมองว่าแปลกแยก ในทางกลับกันถ้าเราเลือกทางที่เหมือน ๆ คนอื่น แต่เราไม่ได้พิเศษ ไม่ได้โดดเด่น เราเป็นแค่คนธรรมดาทั่ว ๆ ไป มันก็มีความยากอีกว่าแล้วเราจะยืนอยู่ตรงไหนดี เพราะมันไม่มีใครเชิดชูความธรรมดา ความไม่พิเศษ การที่เป็นแค่ค่าเฉลี่ยทั่วไป สุดท้ายเราก็คงถูกกลืนไปในแบบไม่มีใครให้ความสำคัญหรือเห็นค่าในสิ่งที่เราทำ
เมื่อเป็นได้แค่ค่าเฉลี่ย
หากเราลองคิดง่าย ๆ เมื่อเราต้องเดินตามทางของคนส่วนใหญ่ แต่เราไม่ได้พิเศษไปกว่าใคร เราจะกลายเป็นแค่คน ๆ หนึ่งที่อยู่ตรงกลาง ถ้าให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพ มันคงเหมือนขบวนพาเหรด ที่เราไม่ใช่คนที่โดดเด่นแบบดรัมเมเยอร์ที่เดินนำอยู่หน้าขบวพาเหรด เราเป็นแค่คนที่เดินอยู่ข้างใน ที่มองลงมาก็คงไม่รู้ว่าเป็นใครอยู่ดี หรือถ้าเปรียบเทียบเหมือนในห้องเรียน เราก็ไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่งจนครูสนใจ ไม่ได้เป็นเด็กเกเรที่ครูเฝ้าดู หรือเป็นเด็กกิจกรรม คุยเก่ง จนใคร ๆ ก็รู้จัก เราก็เป็นแค่เด็กธรรมดา ๆ ที่บางทีอาจไม่มีครูจำได้เสียด้วยซ้ำ
การเป็นแค่ค่าเฉลี่ยมันไม่ได้แย่นะ แต่ในสังคมที่บีบเรามาตลอด มันทำให้เรารู้สึกแย่กับการที่ตัวเองเป็นแค่ค่าเฉลี่ย เพราะในสังคมจะให้ค่าแค่กับคนที่เป็นที่สุด และการเป็นที่สอง หรือที่รองลงมามักจะถูกลืม หรือไม่ได้รับความสำคัญอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่ลำดับไหน เก่งมาก เก่งน้อย เราต่างก็ใช้ความพยายามเหมือนกันก็ตาม
เราแบกความคาดหวังของคนรอบข้างมาตลอด
มันยากเหมือนกันที่ต้องพยายามพัฒนาตัวเอง พยายามที่จะเป็นทั้งแบบที่คนอื่นยอมรับว่าดี และต้องพิเศษ โดดเด่นออกมา ในสถานการณ์ที่แค่ใช้ชีวิตธรรมดาก็เหนื่อยแล้ว จนบางครั้งก็เกิดความสงสัยว่าทำไมชีวิตดูยาก ดูเลือกอะไรไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง เราควรต้องเลือกชีวิตเราได้สิ
บางที มันอาจจะเป็นเพราะเราเติบโตมาพร้อมกับการคาดหวังของคนรอบข้างของสังคมแบบนี้ เราอยู่กับมันมาทั้งชีวิต จนเหมือนเราแบกทุกอย่างเอาไว้โดยที่ไม่รู้ว่าเราจะวางมันลงยังไง เราเลยคาดหวังกับตัวเองไปตามสังคม ว่าเราต้องดีที่สุด เก่งที่สุด ต้องเป็นที่สุดในทุกเรื่อง ๆ มันเลยง่ายที่เราจะเศร้ากับการไม่เป็นแบบที่คนอื่นคาดหวัง มันเลยง่ายที่เราจะไม่รู้สึกภูมิใจกับตัวเองเลย
เลิกเอาความภูมิใจ ผูกกับ ความไม่พิเศษ
เมื่อใดก็ตามที่เราเอาความภาคภูมิใจในตัวเองไปผูกกับ ความพิเศษ หรือ ความไม่พิเศษ โอกาสที่เราจะรู้สึกภูมิใจมันก็คงน้อยพอ ๆ กับโอกาสในการถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะการคิดแบบนี้มันคงยากที่เราจะรู้สึกภูมิใจขึ้นมาได้ ในเมื่อคนเราไม่ได้เก่ง ไม่ได้พิเศษไปทุกเรื่อง ต่อให้เราโดดเด่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราก็คงอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบด้านที่ไม่พิเศษของเรากับคนอื่นอยู่ดี เราคงไม่รู้สึกพอใจง่าย ๆ แน่ ๆ เหมือนเราไม่มีวันที่จะโดดเด่นมากพอที่จะรู้สึกพอใจในตัวเอง แบบนั้นเลย
พอใจใน “ความไม่พิเศษ” ของตัวเอง
บางทีเราอาจต้องย้อนกลับมาถามตัวเองว่า ความพิเศษที่เรามองหานั้นมันเติมเต็มความต้องการใครบ้าง เพราะจริง ๆ แล้วเราอาจจะไม่ได้ต้องการมันก็ได้ ความจริงเราอาจจะพึงพอใจแล้วกับการเป็นคนธรรมดาของเรา ที่ถึงแม้จะไม่มีอะไรที่พิเศษ แต่เราก็ดีใจที่เป็นแบบนี้
ถ้าเราพึงพอใจในความไม่พิเศษของเราแล้ว ก็ไม่รู้จะต้องพยายามมากมายเพื่อที่จะพิเศษไปทำไมกัน จะเหนื่อยเพิ่มขึ้นเพื่อความโดดเด่นที่เราไม่ได้มีความสุขกับมัน ไม่เห็นจะมีประโยชน์สักนิดเลย … เพราะความสุขของเราในการมองตัวเอง มันสำคัญที่สุด
เชื่อสิ ทุกคนมีดีในแบบของตัวเอง เพราะฉะนั้น อย่าไปยึดติดว่าเราต้องดี ต้องโดดเด่น หรือพิเศษอะไรมากมายเลย การเป็นคนธรรมดาที่มีความสุขในทุกเส้นทางของชีวิต มีความสุขในสิ่งที่ทำ มีความสุขในความธรรมดาที่ไม่พิเศษของตัวเอง บางทีมันอาจเป็นสิ่งที่เราภูมิใจกับมันมากที่สุดก็ได้นะ